(League of Legends – Cloud 9)
เริ่มขึ้นแล้วกับรายการแข่งขัน League of Legends World Championship ซีซั่น 5!
และด้วยการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่มที่กำลังดำเนินอยู่นั้นทำให้สามารถพูดได้ว่าการแข่งไม่ได้เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ทั้งหมด
ซึ่งในขณะนี้มีอยู่ 1 ทีมที่โดดเด่นกว่าทีมอื่นๆ มีผลงานเหนือความคาดหวังของแฟนๆและนักวิเคราะห์
จะเป็นทีมอื่นใดไปไม่ได้นอกจาก Cloud 9 มือวางอันดับ 3 ของรายการจากอเมริกาเหนือ ประกอบด้วยสมาชิกดังนี้ An ‘Balls’ Le ตำแหน่งท็อปเลน Hai ‘Hai’ Lam ตำแหน่งจังเกิล Nicolaj ‘Incarnati0n’ Jensen ตำแหน่งมิดเลน Zachary ‘Sneaky’ Scuderi ฮีโร่สาย ADC พร้อมด้วย Daerek ‘LemonNation’ Hart สายซัพพอร์ทตำแหน่งบอทเลน และมี Royce ‘Bubbadub’ Newcomb ทำหน้าที่เป็นโค้ชของทีม
ระหว่างการแข่งขัน NA LCS Spring Split นั้นทีมที่เคยเป็นทีมระดับท็อปนี้กลับมีผลงานย่ำแย่ลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะมิดเลนซึ่ง Hai กัปตันทีมและผู้ออกคำสั่งระดับโลกไม่สามารถรักษาฟอร์มไว้ได้ในขณะที่มีอาการบาดเจ็บข้อมือที่ส่งผลต่อการฝึกและการเล่น เนื่องจากฟอร์มที่ตกต่ำลงและไม่สามารถฝึกซ้อมได้ตามจำนวนชั่วโมงที่กำหนด ทำให้ Hai ประกาศถอนตัวจากทีมอย่างเป็นทางการ จึงมีการเพิ่ม Incarnati0n อัจฉริยชาวยุโรปเข้ามาเสริมทีมในตำแหน่งมิดเลนแทน
เมื่อการแข่งขัน NA LCS Summer Split เริ่มต้นขึ้น ทุกคนสามารถเห็นความแตกต่างด้านการอัพเกรดของทีมได้อย่างชัดเจน และการเปลี่ยนตัวผู้เล่นในทีมครั้งนี้ได้เปลี่ยนยุคใหม่แห่งความรุ่งโรจน์ไปหมด เป็นการให้กำลังใจ C9 ให้ก้าวต่อไปเท่านั้น อย่างไรก็ตามหลังจากที่การแข่งขันดำเนินไปได้ 3 สัปดาห์ ผลปรากฎว่าผู้เล่นใหม่ไม่สามารถเติมเต็มทีมแทนที่กัปตันผู้เป็นคนออกคำสั่งได้ แม้ว่า Incarnati0n จะสามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างสมเหตุสมผลในช่วงเริ่มแรกของเขา แต่ทีมขาดการประสานงานและเอกลักษณ์ ไม่เหมือนกับแต่ก่อนที่มีพร้อม เพราะการเล่นสไตล์แครี่-ซัพพอร์ทของ Hai และความสามารถอันโดดเด่นในการอ่านสถานการณ์ การออกคำสั่งเด็ดขาดที่สามารถทำให้ทีมปฏิบัติตามได้ในทันทีและมีประสิทธิภาพ ต่อมาไม่นาน อดีตแชมป์แห่งอเมริกาเหนือก็ทำผลงานได้เพียงอันดับที่ 9 ในฤดูกาลปกติเท่านั้น ทำให้ชื่อเสียงโด่งดังนั้นเป็นได้เพียงแค่อดีตของ Cloud 9 เท่านั้น
ทีมต้องการความเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ในขณะที่ฤดูกาลของรายการแข่งขันกำลังดำเนินต่อไป แต่ Cloud 9 กลับไม่ก้าวหน้าไปไหนเลย อีกทั้งยังมีโอกาสมากว่าจะถูกปรับตกชั้นให้ไปเล่น Challenger Series แทน LCS ทำให้ William ‘Meteos’ Hartman จังเกอร์ระดับโลกผู้ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ออกคำสั่งตัดสินใจประกาศก้าวลงจากตำแหน่งผู้เล่นหลัก เขากล่าวว่าบรรยากาศที่ไม่มี Hai นั้นทำให้ทุกอย่างออกมาไม่เวิร์คเท่าไหร่ ด้วยเหตุนี้ ทำให้การเกษียณของ Hai ต้องเป็นอันสิ้นสุดลงและกลับเข้าทีมอีกครั้ง แม้ว่า Hai จะมีระดับเทคนิคจังเกิลที่ต่ำกว่า Meteos แต่ก็ทำให้บรรยากาศน่าตื่นเต้นขึ้นอย่างที่ต้องการ ทีมค่อยๆเพิ่มจังหวะพัฒนาการไปเรื่อยๆและสามารถไต่กลับขึ้นมาช้าๆแต่มั่นคงเพื่อหนีห่างโซนตกชั้น จนสร้างปาฏิหาริย์ในการแข่งขัน NA Gauntlet ซึ่งท้ายที่สุดแล้วพวกเขาสามารถเอาชนะ Team Liquid ทีมที่ชนะอันดับ 1 ในการแข่งขันฤดูกาลปกติได้ และเป็นตัวแทนระดับภูมิภาคในฐานะทีมมือวางอันดับ 3 จากอเมริกาเหนือ
Cloud 9 เข้าร่วมรายการแข่งขันชิงแชมป์โลกในฐานะมือวางอันดับ 3 ซึ่งนั่นเป็นความท้าทายที่รออยู่เบื้องหน้าหากว่าพวกเขาสามารถผ่านรอบแบ่งกลุ่มไปได้ หลายคนเชื่อว่าการผ่านรอบแบ่งกลุ่มนั้นเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับ Cloud 9 เพราะพวกเขาได้อยู่กลุ่มบีร่วมกับ Fnatic ที่ได้ชื่อว่าเป็นทีมที่แข็งแกร่งที่สุดจากยุโรป ซึ่งได้เข้าร่วมการแข่งขันชิงแชมป์โลกเสมอ แถมยังมีผลงานโดดเด่นทิ้งห่างทีมอื่นๆใน Summer LCS Split ด้วย ไม่เพียงเท่านั้น Fnatic ยังทำลายสถิติไร้พ่ายของ Cloud 9 13-0 ด้วยสถิติ 18-0 ในฤดูกาลปกติซัมเมอร์ด้วย
ในกลุ่มบีนั้นนอกจาก C9 และ Fnatic แล้ว ยังมีทีมที่มีความสามารถมากอีก 2 ทีมอย่าง Invictus Gaming มือวางอันดับ 3 จากจีน ที่ชนะทีม QC ในรอบคัดเลือก LPL ซีรี่ส์ 3 – 0 จนได้เข้ามาเล่นในรายการใหญ่นี้ และ AHQ ทีมจากไต้หวัน ที่เข้ามาเล่นในรอบนี้จากการครอบอันดับ 1 ใน LMS ด้วยการเอาชนะ Hong Kong eSports ไปได้อย่างสบายๆ 3 – 0
กลุ่มบีได้รับการขนานนามว่าเป็น “กลุ่มแห่งความตาย” ที่ดูเหมือนว่าจะมีตัวเก็งอยู่ 3 ทีมที่พยายามแย่งชิง 2 อันดับแรก เพื่อผ่านเข้าไปเล่นในรอบต่อไป โดยที่แฟนกีฬาและนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ต่างทำนายว่า Cloud 9 จะจบในอันดับที่ 4 ในรอบแบ่งกลุ่ม
ในสัปดาห์แรก เราเห็น Cloud 9 ที่ได้ข่าวการทำนายผลนี้และไม่ยินดีกับภาพลักษณ์ที่ได้รับจากสังคมสักเท่าไหร่ แต่ในตอนนี้ ทีมขึ้นมาเป็นผู้นำกลุ่มด้วยชัยชนะ 3 เกมและ 2 เกมนั้นเป็นเกมที่ชนะทีมอื่นๆในกลุ่ม เรื่องราวของ Cloud 9 นั้นเป็นเหมือนนิทานซินเดอเรลล่าที่มีจุดเริ่มต้นเล็กๆจากการพยายามหนีตกชั้นมาเป็นการเดินทางสู่ยุโรปเพื่อเข้าร่วมการแข่งขัน League of Legends World Championship และดูเหมือนว่านี่จะเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น