Fear ขอสู้ต่อไป ในวัย 30!

Fear ขอสู้ต่อไป ในวัย 30
แชร์ข่าว
Share on facebook
Facebook
Share on twitter
Twitter

แม้ปัจจุบันวงการวิทยาศาสตร์ได้มีการเผยแพร่วิจัยที่ชี้ว่า สาเหตุที่นักแข่งอีสปอร์ตมีอายุการใช้งานต่ำมีสาเหตุมาจากปฏิกริยาของมนุษย์ที่ลดลงทุกๆ 15 ปี แต่ Clinton Loomis หรือ “Fear” นักแข่งสุดเก๋าวัย 30 กลับไม่เชื่อทฤษฎีดังกล่าว พร้อมกับเผยข้อความที่มีเจตนาพิสูจน์ให้ได้ว่า สิ่งที่บางคนคิดไม่จริงเสียทั้งหมด 

ผมอยากจะพูดถึงบางสิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกเหนี่ยวรั้งไม่ให้เติบโตและก้าวต่อไปในโลกอีสปอร์ต แน่นอนว่า ด้วยอายุอานาม ผมน่าจะเหมาะสมที่สุดแล้วที่จะเป็นผู้บอกเล่าเรื่องราวนี้

ก่อนอื่นต้องเท้าความก่อนว่าการเป็นผู้เล่น Dota 2 อาชีพในยุคนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย คุณต้องลาออกจากวิทยาลัยและบอกลาโอกาสทางการงานอื่นๆ ถ้าคุณต้องมุ่งมั่นในการเป็นนักแข่งอาชีพ

การแข่ง Dota จะช่วงชิงทุกสิ่งที่อย่างไปจากชีวิตคุณ เวลาทั้งหมดจะหายไปกับการเดินทาง ฝึกซ้อม เพื่อทำให้สังกัดที่เราเล่นให้เป็นหนึ่งในทีมที่ดีที่สุดในโลก

อย่างไรก็ตามในปัจจุบัน ผู้เล่น ผู้ชม และต้นสังกัดทั้งหลายเริ่มปฏิบัติกับนักแข่งในวัย 20 ปลายๆ ราวกับพวกเขาเป็นผู้เล่นสูงอายุรอวันแขวนเมาส์ นั่นยิ่งตอกย้ำให้เห็นว่า การลงทุนอนาคตของเราในวงการอีสปอร์ตเป็นเรื่องที่น่ากลัวและมีความเสี่ยงสูงมาก ถึงแม้คุณจะประสบความสำเร็จ แต่มันอาจจะไม่คุ้มค่าด้วยซ้ำไป

ผมเห็นผู้เล่นจำนวนมากเสียความมั่นใจและเลิกเล่นเพราะความเข้าใจผิดๆ ที่คอมมูนิตี้เป็นผู้กำหนดกฎเกณฑ์ไว้ ผมอายุ 30 ย่าง 31 และรู้ซึ้งถึงความรู้สึกนี้ดี ผู้คนใน Reddit Twitter Instagram หรือแม้แต่ในเกมต่างเข้าใจว่า ยิ่งอายุมากนักแข่งเกมยิ่งมีอายุการใช้งานที่ต่ำลง

แล้วทำไมนักกีฬาในแขนงอื่นถึงรักษาฟอร์มของตัวเองไว้ได้แม้ก้าวสู่วัย 30?

กล่าวจากใจจริง ผมไม่ได้ชมการแข่งกีฬาอื่นๆ มากนัก แต่ก็พอรู้ว่านักบาสชื่อดังอย่าง Lebron James (33) และ Stephen Curry (30) ยังถูกพูดถึงในฐานะนักกีฬาที่ดีที่สุดในสายอาชีพ ในบางกรณีที่ดูสุดโต่งอย่าง Tom Brady (41) ยังคว้าแชมป์ได้ด้วยซ้ำไป ความควาดหวังในตัวนักกีฬาของอีสปอร์ตน้อยมากเมื่อเทียบกับกีฬาอื่นๆ

นอกจากนี้ มันยังมีเหตุผลสนับสนุนอีกหลายเกี่ยวกับประเด็นนี้ โดยสิ่งที่ผู้คนพูดถึงกันมากคือ กีฬาส่วนใหญ่ไม่ได้มีรูปแบบการเล่นและกติกาที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมนัก แต่อีสปอร์ตมีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา มันเลยเป็นเรื่องธรรมดาที่การเปลี่ยนแปลงบางอย่างจะเข้ากับนักแข่งบางคน ในขณะที่บางคนอาจเล่นแย่ลงเมื่อการเปลี่ยนแปลงบางอย่างเกิดขึ้น (ฝีมือไม่เข้ากับเมต้า) ส่วนหนึ่งผมเชื่อว่า คนที่อายุน้อยกว่าจะเรียนรู้ ปรับตัว และเข้าใจการเปลี่ยนแปลงได้ดีกว่าคนอายุมาก แน่นอนมันเป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ เพราะนักกีฬาส่วนใหญ่ก็เริ่มเรียนรู้ในสายอาชีพของตัวเองตั้งแต่อายุยังน้อย

ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ ผมไม่มีทางเริ่มเล่น League of Legends ตอนอายุ 30 และคิดว่าตัวเองจะเป็นโปรได้หรอก

แต่ถึงกระนั้น ยังถือเป็นโชคดีของผมและผู้เล่น Dota คนอื่นๆ ที่อนาคตของเกมนี้ยังสดใสและส่งสัญญาณให้เห็นว่าเกมกำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น ทุกครั้งที่ผมบอกว่าตัวเอง “แก่เกินไป” ที่จะเล่นโดต้า และเห็นคนอื่นรีไทร์เพราะพวกเขาคิดว่าตัวเองไปต่อไม่ไหว ผมรู้สึกไม่เข้าใจ บางคนเพิ่งอายุ 20 ปลายๆ เท่านั้น ซึ่งผมได้ยินมาว่า ปฏิกริยาตอบสนองของเราจะลดลงเมื่ออายุมากขึ้น แต่รู้มั้ย ผมเคยเข้าร่วมการทดสอบนี้กับ Sumail นักแข่งที่อายุน้อยที่สุด ปรากฏว่า ผลการทดสอบบอกว่าผมกับเขามีช่วงวัยห่างกันไม่มาก ทั้งที่พวกเราอายุห่างกันเป็น 10 ปี

ผมอาจจะเป็นคนแรกที่นำการเปลี่ยนแปลงมาสู่ Dota แต่ผมก็หวังว่าหลายคนจะเดินตามรอยเท้าผม เพราะผมมีความเชื่อมั่นว่า มันจะเป็นสิ่งที่ดีต่อเกมและวงการอีสปอร์ตทั้งหมด สิ่งสำคัญเหนืออื่นใด คือ เราจะต้องไม่รู้สึกถูกจำกัดหรือกดดันด้วยกฎเกณฑ์เรื่องอายุที่ผู้คนสร้างขึ้น