สรุปทุกสิ่งที่คุณควรรู้ใน All-Star World
All-Star Melbourne เองก็ได้ผู้ชนะที่จะเป็นตัวแทนเข้าร่วม All-Star Event ในฐานะไวด์การ์ดเรียบร้อยแล้ว ซึ่งแชมป์ในการแข่งขันที่เมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ในปีนี้คือทีม All-Star จากกลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช ที่ได้ Kira ผู้เล่นในตำแหน่งมิดเลนเป็นผู้คว้าชัยให้แก่ทีมหลังเอาชนะ Seiya ผู้เล่นมิดเลน All-Star จากลาตินอเมริกาไปในรอบชิงชนะเลิศ โดยพวกเขาจะเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ Team Ice ในรายการใหญ่นี้
ในส่วนของ Team Ice นั้นยังประกอบไปด้วย LPL All stars จากจีน และ EU LCS จากยุโรปด้วย ทางด้าน Team Fire นั้นจะประกอบไปด้วยผู้เล่นของ LCK จากเกาหลี LMS จากไต้หวัน และ NA LCS จากอเมริกาเหนือ ซึ่งพวกเขาจะลงแข่งขันทั้งแบบทีมภูมิภาค ตัวต่อตัว และโหมดสนุกสนาน ตัดสินทีมที่ชนะจากการสะสมคะแนนที่มากที่สุดจากการแข่งในแบบต่างๆ อีกทั้ง พวกเขาจะได้รับ IP boost สำหรับสมาชิกที่มาจากภูมิภาคที่พวกเขาเป็นตัวแทน ในขณะที่การเปิดให้โหวตนั้นจะเป็นการกำหนดว่า พวกเขาจะได้รับ Fire หรือ Ice สกิน สำหรับแชมเปี้ยน Nautilus, Diana หรือ Teemo นี้
รายชื่อผู้เล่นของแต่ละทีม
Team Fire
LCK: MaRin (Top Laner, SK Telecom T1), Score (Jungler, KT Rolster), Faker (Mid Laner, SK Telecom T1), PraY (AD Carry, KOO Tigers), MadLife (Support, CJ Entus).
NA LCS: Dyrus (Top Laner, Team SoloMid), Meteos (Jungler, Cloud9), Bjergsen (Mid Laner, Team SoloMid), Doublelift (AD Carry, Counter Logic Gaming), aphromoo (Support, Counter Logic Gaming).
LMS: Ziv (Top Laner, ahq e-Sports Club), Karsa (Jungler, Flash Wolves), Toyz (Mid Laner, Hong Kong Esports), BeBe (AD Carry, Assassin Sniper), Olleh (Support, Hong Kong Esports).
Team Ice
EU LCS: Huni (Top Laner, Fnatic), Amazing (Jungler, Origen), Froggen (Mid Laner, Elements), Rekkles (AD Carry, Fnatic), kaSing (Support, H2k-Gaming).
IWC: Smurf (Top Laner, Hard Random), Dimajke (Jungler, RoX), Kira (Mid Laner, Hard Random), LeX (AD Carry, Carpe Diem), Dimonko (Support).
LPL: Koro1 (Top Laner, EDward Gaming), Clearlove (Jungler, EDward Gaming), Rookie (Mid Laner, Invictus Gaming), Uzi (AD Carry, Oh My God), Pyl (Support, LGD Gaming).
รูปแบบรายการแข่งขัน
ในการแข่งขันแบบทีมภูมิภาคนั้น แต่ละทีมภูมิภาคของ Team Fire และ Team Ice จะมาแข่งกันเพื่อเก็บ 100 คะแนนจากทุกๆแมตช์ที่ชนะ และจะมีเพียงทีมภูมิภาคที่เก็บคะแนนได้มากที่สุดของแต่ละฝั่งเท่านั้นที่จะมาแข่งกับแบบ Bo3 ชิง 300 คะแนน
รายการแข่งขันแบบตัวต่อตัวนั้นจะมีการสุ่มผู้เล่นที่จะต้องมาแข่งขันกัน แต่ในรอบแรกนั้นจะเป็นการแข่งกันระหว่างผู้เล่นจาก Team Fire และ Team Ice ซึ่งใช้กฎมาตรฐานสำหรับ 1v1 และดวลในแผนที่ Howling การแข่งขันนี้ใช้รูปแบบ Bo1 ซึ่งผู้ที่ชนะอันดับ 1 จะได้รับ 150 คะแนน ผู้ชนะอันดับ 2 จะได้รับ 50 คะแนน และผู้ชนะอันดับ3 – 4 จะได้รับคนละ 25 คะแนน
ส่วนสุดท้ายในโหมดสนุกสนานจะประกอบด้วยหลากหลายโหมด ได้แก่ Pick 10 (การพบกัน 5v5 ที่ผู้เล่นต้องเลือกเล่นจากแชมเปี้ยน 10 ตัวที่ได้รับการโหวตมากที่สุด) Assassin Mode (เป็นการแข่งขันที่ผู้เล่นไม่เห็นว่าอีกทีมเลือกแชมเปี้ยนตัวใด และสามารถเล่นได้เพียงแชมเปี้ยนมือสังหารเท่านั้น แต่สามารถซื้อไอเทมต่างๆได้) Marksman Mode (เป็นการแข่งขันที่ผู้เล่นไม่เห็นว่าอีกทีมเลือกแชมเปี้ยนตัวใด และสามารถเล่นได้เพียงแชมเปี้ยนเอดียิงไกลเท่านั้น แต่สามารถซื้อไอเทมต่างๆได้) One For All และ Tandem Mode เองก็เป็นโหมดเด่นในการแข่งขันนี้เช่นเดียวกัน ในขณะที่ All-Star All-Stars จะเป็นการแข่งขันของผู้เล่นที่ได้รับการโหวตในตำแหน่งนั้นจากแฟนๆมากที่สุด ซึ่งผู้โหวตจะต้องเลือกผู้เล่นทั้งของ Team Fire และ Team Ice ก่อนที่การแข่งขันจะเริ่มต้นขึ้น คะแนนในโหมดนี้จะแตกต่างกันออกไป โดยทีมที่ชนะโหมด All-Star All-Stars จะได้รับ 200 คะแนน ชนะโหมด Tandem Mode รับ 100 คะแนน และโหมดที่เหลือจะได้ 50 คะแนน
การแข่งขันสุดท้าทายหลากหลายรูปแบบนี้จะดึงดูดผู้ชมที่สนใจมากมาย พร้อมพิสูจน์ให้เห็นว่ารายการแข่งขัน All-Star Los Angeles 2015 นี้จะเป็นประสบการณ์และความทรงจำที่เยี่ยมยอดสำหรับแฟนกีฬาอีสปอร์ตทั่วโลก ศึกระหว่างเทพจากทุกมุมโลกแบบนี้ ถ้าไม่ติดตามชมกันให้ดีๆก็ยากที่จะบอกเลยทีเดียวว่าใครจะอยู่ใครจะไป!
